ผลิตภัณฑ์ใหม่ แร็พพิโฟลว์ สังกะสี
Thursday, 30 November 2023
โดยปกติธาตุสังกะสีจะตอบสนองในระดับโมเลกุล ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ฮอร์โมนพืชกลุ่มออกซิน ช่วยเพิ่มการแบ่งตัวของเนื้อเยื่อเจริญของยอด ใบอ่อน และผล ช่วยกระตุ้นการเปิด-ปิดปากใบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการสังเคราะห์แสงในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม และช่วยให้พืชสร้างโปรตีน เพิ่มพลังงานจากเมล็ด ทำให้พืชปรับตัวได้ และให้ผลผลิตต่อเนื่อง แม้อยู่ในสภาวะเครียด สังกะสีจึงจำเป็นสำหรับผัก และไม้ผล ในระยะช่วงใกล้ติดดอก และสร้างผล เช่น แตงกวา พริก ถั่วฝักยาว พืชตระกูลส้ม ถั่วเหลือง ข้าว ข้าวโพด ทุเรียน และมะม่วง เป็นต้น เมื่อขาดธาตุสังกะสีจะพบว่า พืชใบเลี้ยงคู่ ต้นจะแคระแกร็น เพราช่องว่างระหว่างกิ่งก้านสั้นลง โดยเฉพาะช่วงยอด ทำให้ใบช่วงบนเรียงตัวชิดกัน ขนาดของใบเล็กลง ใบอ่อนเหลืองซีดกระจายทั้งใบ ในพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบอ่อนจะเหลืองลามไปตามขอบใบ และอาจพบแผ่นใบบางส่วนเปลี่ยนเป็นจุดสีแดง ดังนั้นเพื่อป้องกันการขาดสังกะสี ควรฉีดพ่นแร็พพิโฟลว์ สังกะสี ซึ่งมีธาตุสังกะสีที่ละลายน้ำได้ 6% ในอัตรา 10-20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร อย่างสม่ำเสมอ
- Published in Knowledge-Thailand
No Comments
ผลิตภัณฑ์ใหม่ แร็พพิโฟลว์ แมงกานีส
Tuesday, 19 September 2023
แมงกานีส (Manganese : Mn) เป็นจุลธาตุที่พืชต้องการเพียงเล็กน้อย แต่ขาดไม่ได้ ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารอนุมูลอิสระ กระบวนการสังเคราะห์แสง เร่งปฏิกิริยาในการสังเคราะห์โปรตีน คาร์โบไฮเดรต กรดไขมัน คลอโรฟิลล์ รวมถึงกระตุ้นการสร้างสารฮอร์โมนกลุ่มออกซิน (IAA) ในเซลล์พืช เป็นต้น เมื่อพืชขาดธาตุแมงกานีสจะพบว่า ในพืชใบเลี้ยงคู่ จะมีสีเหลืองซีดระหว่างเส้นของใบอ่อน สำหรับพืชใบเลี้ยงเดี่ยวจะพบจุดสีเทาแกมเขียวที่ใบล่างๆ แต่ถ้าหากพืชได้รับธาตุแมงกานีสมากเกินไปพืชจะแสดงรอยด่างสีน้ำตาลที่ใบแก่ ดังนั้นเพื่อป้องกันการขาดแมงกานีส ควรฉีดพ่นแร็พพิโฟลว์ แมงกานีส ซึ่งมีธาตุแมงกานีสที่ละลายน้ำได้ 6% ในอัตรา 10-20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร อย่างสม่ำเสมอ
- Published in Knowledge-Thailand
การเพิ่มความเขียวของใบ และคุณภาพผลผลิตพืชด้วยแมกนีเซียม
Friday, 18 August 2023
แมกนีเซียมเป็นธาตุอาหารที่มีความสำคัญ เป็นแกนกลางของโครงสร้างองค์ประกอบคลอโรฟิลล์ และล้อมรอบด้วยไนโตรเจน มีหน้าที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์โปรตีนโดยตรง ช่วยสร้างพลังงานในการสังเคราะห์แสง การสะสมคาร์โบไฮเดรตไปยังส่วนต่างๆ และการเคลื่อนย้ายน้ำตาล ช่วงที่พืชให้ผลผลิต จะมีการเคลื่อนย้ายแมกนีเซียมจากใบสู่ผลผลผลิต แมกนีเซียมมีส่วนช่วยสังเคราะห์อะมิโน กรดไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพผลผลิต สามารถนำไปใช้ได้ตลอดช่วงการเจริญเติบโตของพืช “แร็พพิโฟลว์ แมกนีเซียม” หนึ่งในผลิตภัณฑ์กลุ่มแร็พพิโฟลว์จากแอ็กสเปค เป็นปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรองชนิดน้ำ สำหรับฉีดพ่นทางใบนำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย มีองค์ประกอบของกรดคาร์บอกซิลิคที่มีส่วนช่วยในการนำพาธาตุแมกนีเซียมเข้าสู่ต้นพืชได้อย่างรวดเร็ว อัตราการใช้ 10-20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 7-14 วัน อัตราและความถี่ในการฉีดพ่นขึ้นอยู่กับชนิดและระยะการเจริญเติบโตของพืช จากงานทดลองใช้ “แร็พพิโฟลว์ แมกนีเซียม” ร่วมกับปุ๋ยเคมีน้ำของแอ็กสเปค ในการฉีดพ่นถั่วเหลืองฝักสด พบว่า ชุดทดลองดังกล่าวช่วยให้ใบถั่วเหลืองมีขนาดใหญ่ขึ้น ใบเขียวเข้มกว่าชุดควบคุมอย่างเห็นได้ชัด ทรงพุ่มขยายใหญ่ และลำต้นยืดสูงขึ้นมาก
- Published in Knowledge-Thailand
บทบาทของโฟกัสกับการพัฒนาคุณภาพถั่วเหลืองฝักสด
Saturday, 12 August 2023
อิทธิพลของธาตุโพแทสเซียม (K) มีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์โปรตีนของพืช โดยเฉพาะพืช C3 เช่น พืช ตระกูลถั่ว มะม่วง เงาะ ทุเรียน และข้าว หากขาดโพแทสเซียมจะมีผลต่อการสังเคราะห์เอนไซม์ Rubisco ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญต่อการสังเคราะห์แสง นอกจากนี้ โพแทสเซียมยังช่วยการควบคุมการเปิด-ปิด ปากใบ ดังนั้นด้วยคุณสมบัติของโพแทสเซียมดังกล่าว สอดคล้องกับผลทดสอบโฟกัส (3-0-31) ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีโพแทสเซียมสูงในถั่วเหลืองฝักสด ที่อัตรา 30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุกๆ 7-10 วัน ฉีดพ่นครั้งแรกเมื่อถั่วเหลืองระยะสร้างดอก หรือ 40 วันหลังปลูก เมื่อเก็บผลผลิต ที่อายุ 65 วัน ผลพบว่าโฟกัสช่วยเพิ่มเปอร์เซ็นต์คุณภาพฝักเกรดเอมากกว่าวิธีไม่ฉีดพ่น และได้น้ำหนักผลผลิต 1.653 ตันต่อไร่ ขณะที่แปลงไม่พ่นมีผลผลิตเพียง 0.906 ตันต่อไร่ ดังนั้นโฟกัสสามารถช่วยให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 82.5%
- Published in Knowledge-Thailand
แอ็กซี่-เอเอ กับการฟื้นต้นอ้อย และลดอาการเป็นพิษจากยาฆ่าหญ้า
Thursday, 10 August 2023
ในสภาพความเป็นจริง เมื่อวัชพืชในแปลงอ้อยมีปริมาณหนาแน่น สารกำจัดวัชพืชประเภทไม่เลือกทำลายจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในแปลงอ้อย แต่ผลกระทบที่มีโอกาสได้รับคือ อ้อยมีอาการใบไหม้ ฝ่ายวิชาการของแอ็กสเปคจึงทำการทดสอบฉีดพ่น “แอ็กซี่-เอเอ” ทางใบโดยใช้อัตรา 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ 125 ซีซีต่อไร่ เพื่อฟื้นสภาพต้นให้กลับมาปกติ ผลการทดลองพบว่า หลังฉีดพ่น “แอ็กซี่-เอเอ” ทางใบไปแล้ว 20 วัน อ้อยสามารถสร้างใบใหม่ ใบเขียว เป็นพุ่ม และสามารถแตกกอได้ตามปกติ ขณะที่แปลงไม่ฉีดพ่นยังพบอาการใบไหม้ และใบใหม่งอกช้ากว่า เนื่องจาก “แอ็กซี่-เอเอ” มีองค์ประกอบของกรดอะมิโนอิสระเข้มข้น ที่พืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที มีส่วนช่วยสร้างโปรตีน และซ่อนแซม เซลล์พืชที่ถูกทำลาย ช่วยควบคุมการเปิดปากใบ ถ่ายเทแลกเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ได้มากขึ้น แม้อ้อยอยู่ในสภาพเครียด ขณะที่อีกส่วนประกอบที่เป็นสาหร่ายสีน้ำตาลเข้มข้น ยังช่วยการพัฒนาส่วนเนื้อเจริญ เช่น การกระตุ้นตาราก การสร้างรากใหม่ การดูดสารอาหารได้ดีขึ้น กระตุ้นการแตกยอด และตาข้างเพิ่มขึ้น ทำให้อ้อยมีการแตกกอสูงกว่า และได้ลำอ้อยที่สมบูรณ์ปกติ
- Published in Knowledge-Thailand
แอ็กซี่-เอเอ กับการยืดข้อปล้อง และการเพิ่มผลผลิตของอ้อย
Thursday, 29 June 2023
ผลการศึกษาปัญหาระหว่างการเพาะปลูกอ้อย คือ ค่าปุ๋ย ค่าสารเคมีควบคุมวัชพืช ค่าแรงงาน ค่าเครื่องจักรกลต่างๆ ที่เป็นต้นทุน นอกจากนี้ยังเกิดจากสภาวะแล้ง ขาดน้ำระหว่างการเพาะปลูก ถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปลดปล่อยธาตุอาหารในดิน ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิต คือ น้ำหนักอ้อย หลังจากทีมวิชาการได้ทดสอบประสิทธิภาพของ “แอ็กซี่-เอเอ” โดยฉีดพ่นช่วงแรกตอนเริ่มปลูก เพื่อช่วยกระตุ้นการงอกแล้ว เราพบว่า เมื่อฉีดพ่น “แอ็กซี่-เอเอ” ทางใบในอัตรา 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ 125 ซีซีต่อไร่ ในช่วงใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 หรือกำลังย่างปล้องนั้น “แอ็กซี่-เอเอ” ยังช่วยให้อ้อยทนต่อสภาพความเครียดต่างๆ ได้ดี ขณะเดียวกันยังกระตุ้นให้อ้อยยืดข้อปล้อง ทำให้ได้ขนาดลำที่สม่ำเสมอ ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น เฉลี่ย 25-30% ดังนั้นวิธีการพ่น “แอ็กซี่-เอเอ” ทางใบ ในอัตราการใช้น้อย จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางกายภาพของอ้อย เพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิตของอ้อย นอกจากนี้ “แอ็กซี่-เอเอ”สามารถผสมเข้าได้กับสารเคมีการเกษตรอย่างอื่นได้ดี และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานและค่าปุ๋ยลงได้อีกด้วย
- Published in Knowledge-Thailand
แอ็กซี่-เอเอ ผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเสริมการงอกของอ้อย
Tuesday, 27 June 2023
ปัญหาในช่วงแรกของการปลูกอ้อย คือ อ้อยงอกไม่สม่ำเสมอ สิ่งหนึ่งคือการขาดน้ำ ดินแน่น และการควบคุมวัชพืชไม่ดี เมื่อทดสอบฉีดพ่น แอ็กซี่-เอเอ อัตรา 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ 125 ซีซีต่อไร่ ละลายผสมพร้อมสารควบคุมและกำจัดวัชพืช โดยที่ไม่ไปลดฤทธิ์ของสารกำจัดวัชพืช นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างรากอ้อย รากหนาแน่น เพิ่มประสิทธิภาพการดูดน้ำ และปุ๋ย ช่วยเพิ่มอัตราการงอก อ้อยงอกเร็วขึ้น และสร้างใบใหม่ ใบแผ่เขียวได้ดีกว่าแปลงไม่ฉีดพ่น เมื่ออ้อยเจริญเติบโตในช่วงแรกได้ดี จึงมีแนวโน้มต่อการเพิ่มการแตกกอของอ้อย และตอบสนองต่อการใส่ปุ๋ยทางดินได้มากขึ้น
- Published in Knowledge-Thailand
แอ็กซี่-วี ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อการเพิ่มผลผลิตในผัก
Friday, 17 March 2023
ผัก เป็นพืชที่เจริญเติบโต และให้ผลผลิตเร็ว มีความเปราะบาง และอ่อนแอต่อการเข้าทำลายของโรคได้ง่าย มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ดังจึงต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ได้รับการบำรุงด้วยปุ๋ยทางใบ และทางดินอย่างสม่ำเสมอ หากระหว่างการเพาะปลูกหากได้รับปัจจัยไม่เพียงพอ และปัจจัยจากภายนอกที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต เช่น อากาศร้อน การขาดน้ำ สภาพกรด-ด่าง ของดิน หรือความเป็นพิษจากสารเคมีทางการเกษตร อาจส่งผลให้ต้นแคระแกร็น ใบสั้น ใบซีด การแตกกิ่งหรือแขนงลดลง ต้นพืชอ่อนแอทำให้โรคแมลงเข้าทำลายได้ง่าย แอ็กซี่-วี เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนของสาหร่ายสีน้ำตาล และกรดอมิโนอิสระ ในสัดส่วนที่เหมาะสม ใช้สำหรับพืชที่ให้ผลผลิตรวดเร็ว ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงจากเซลล์พืช แอ็กซี่-วี มีองค์ประกอบของคาร์โบไฮเดรต ฮอร์โมนพืช วิตามินต่างๆ และกรดอะมิโนที่จำเป็น ซึ่งพืชสามารถนำไปใช้ได้ทันทีหลังฉีดพ่น การฉีดพ่น แอ็กซี่-วี ในอัตรา 10-20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร จะส่งเสริมการสร้างราก ช่วยให้กล้าพืชปรับตัวได้เร็วหลังการย้ายปลูก กระตุ้นการสร้างใบใหม่ ส่งเสริมการสร้างโปรตีน การเปิดปากใบ และช่วยให้พืชตอบสนองต่อปุ๋ยทางดินได้ดี พืชสามารถเจริญเติบโตและสร้างน้ำหนักได้ดีแม้อยู่ในสภาวะความเครียด
- Published in Knowledge-Thailand
บลูสเปียร์ ซีรี่ย์ ชุดปุ๋ยเกล็ดเพื่อการดูแลกล้วยไม้ตัดดอก
Friday, 08 July 2022
กล้วยไม้ เป็นสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพในการส่งออกทั้งแบบตัดดอกและแบบกระถาง หลังจากเตรียมความพร้อมกล้วยไม้ให้มีความสมบูรณ์พร้อมสำหรับการออกดอกแล้ว การฉีดพ่นปุ๋ยเกล็ด บลูสเปียร์ 20-23-18 สลับกับ บลูสเปียร์ สูตร 12-48-8 และ บลูสเปียร์ 9-15-30 ด้วยอัตรา 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุกๆ 7 วัน เพื่อกระตุ้นการสร้าตาดอกอย่างต่อเนื่อง โดย “บลูสเปียร์” ช่วยให้กล้วยไม้สร้างใบเพิ่มขึ้น และมีหน่อที่สมบูรณ์ ส่งผลให้กล้วยไม้สามารถออกดอกได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงส่งเสริมคุณภาพของดอก เช่น เพิ่มจำนวนช่อดอก และความยาวก้านช่อดอก ช่วยขยายขนาดดอก ช่วยให้ดอกมีสีดอกเข้มสม่ำเสมอ เป็นผลที่แปลงที่ไม่ได้ฉีดพ่น โดยดัชนีวัดคุณภาพของกล้วยไม้ขึ้นอยู่กับ ความยาวช่อดอก ขนาดดอก ความแข็งแรงของดอก และสีดอกที่สม่ำเสมอ การใช้ชุดผลิตภัณฑ์บลูสเปียร์ สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพของดอก และให้ผลผลิตดอกได้อย่างต่อเนื่อง
- Published in Knowledge-Thailand
การจัดการความเครียดของทุเรียนด้วยผลิตภัณฑ์แอ็กสเปค
Tuesday, 07 June 2022
Plant Stress: ความเครียดของต้นทุเรียนหลังเก็บเกี่ยวคืออะไร? ภาวะความเครียดของต้นทุเรียนหลังเก็บเกี่ยวมีสาเหตุมาจากเซลล์พืชถูกกระตุ้นและรบกวนกระบวนการทำงานตามปกติของเซลล์ทำให้เซลล์พืชต้องสร้างสารอนุมูลอิสระขึ้นมาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ให้ประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานของเซลล์พืชลดลงส่งผลให้พืชหยุดการเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงลดลง การดูดซึมธาตุอาหารลดลง เป็นต้น โดยมีปัจจัยสาเหตุจากสองปัจจัย ดังนี้ -ปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะขาดน้ำ ภาวะน้ำท่วม อากาศร้อนหรือหนาวจัด สภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงกระทันหัน เป็นต้น -ปัจจัยภายใน เช่น การใช้สารแพคโคลบิวทราโซล, การใช้สารฟอสฟอริก แอซิดในการฝังเข็ม การใช้สารเมพิควอต คลอไรด์ในการยับยั้งใบอ่อน และการไว้ลูกต่อต้นมากเกินไปเป็นต้น ทำไมต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของแอ็กสเปคในการฟื้นต้น? แอ็กซี่-ไบโอ (Agsea-Bio) หรือ เทอร์มา-ซี (Terma-Sea) 1.) เป็นสาหร่ายสายพันธุ์ Ascophyllum Nodosum เขตน้ำขึ้นน้ำลง (Intertidal Zone) จากแหล่งที่ดีที่สุดจากทะเลแอตแลนติกเหนือ ประเทศไอร์แลนด์ 2.) ใช้เทคนิคการผลิตขั้นสูงเฉพาะด้วยการสกัดร้อน (Alkaline Hydrolysis Process) ทำให้ได้สารอาหารครบถ้วนมีประสิทธิภาพสูงสุด 3.) ช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนภายในต้นพืชชักนำให้เกิดการเจริญเติบโตของเซลล์พืชได้ดี 4.)
- Published in Knowledge-Thailand